มาฝึก “กรรมโยคะ” ในขณะทำงานกันเถอะ
(ตอนที่1)
เมื่อมองย้อนไป เห็นภาพต่างๆ มากมายที่ผุดขึ้นมาจากความทรงจำ ภาพหนึ่งในชีวิตที่ภูมิใจคือการได้ฝึกโยคะอาสนะ และปัจจุบันยังคงฝึกโยคะอาสนะได้อยู่ ส่วนอีกหนึ่งความภูมิใจคือในเรื่องการทำงาน ผู้เขียนก็ใช้โยคะมาช่วยในการทำงานเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ไม่ใช่เป็นการฝึกโยคะอาสนะอย่างที่ท่านผู้อ่านเข้าใจ แต่เป็นการฝึกกรรมโยคะ ดังนั้น สิ่งที่จะแบ่งปันประสบการณ์และความรู้ในวันนี้คือ “กรรมโยคะ” ท่านใดที่ฝึก
กรรมโยคะแล้ว กล่าวได้ว่า งานเป็นผล คนเป็นสุขค่ะ
กรรมโยคะคืออะไร
“กรรมะ”เป็นคำมาจากภาษาสันสกฤต กรม หมายความว่าการกระทำทั้งปวงคือกรรมะ แต่ตามความหมายทางวิชาการแล้ว คำนี้มีความหมายรวมไปถึงผลของการกระทำอีกด้วย ส่วนทางด้านอภิปรัชญา คำว่า กรรมะหมายถึง ผลของการกระทำของคนเราตั้งแต่ในอดีต แต่ในกรรมโยคะเราเพียงแต่ใช้คำว่า กรรมะ ในความหมายของการงานเท่านั้น
สวามี วิเวกนันทะ กล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า “พวกเรากำลังกระทำกรรมกันอยู่ตลอดเวลา ผมกำลังพูดกับพวกคุณนั่นก็เป็นกรรม เราหายใจเข้า ออก ก็เป็นกรรม เราเดินก็เป็นกรรม ทุกๆสิ่งที่เราทำไม่ว่าจะเป็นทางจิตหรือทางกายเป็นกรรมทั้งสิ้น แล้วมันก็จะทิ้งร่องรอยของมันไว้ที่ตัวเราด้วย”
การที่กรรมต่างๆทิ้งร่องรอยไว้ที่ตัวเรานี้เอง ผู้เขียนจึงขอให้ท่านผู้อ่านทบทวนท่าทีในการทำงานของท่านว่าโดยส่วนใหญ่แล้วกำลังทำกรรมประเภทใดอยู่ หมั่นตรวจสอบ“กรรม”ปัจจุบันของเราบ่อยๆยิ่งดี ทั้งนี้เพื่อให้เราฝึกสติ และตรวจสอบในการกระทำของเราที่อาจพลั้งเผลอทำกรรมทางลบลงไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเท่ากับเราได้ทิ้งร่องรอยของกรรมไว้ที่ตัวเราและอาจสะสมกรรมทางลบโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นขอให้ท่านผู้อ่านกรุณานั่งทบทวนสักนิดว่าตั้งแต่เช้าจนถึงก่อนนอน วันนี้เราทำกรรมอะไรกันบ้าง ท่านผู้อ่านอาจพิจารณาประเด็น “คิด พูด ทำ” ก็ได้ค่ะ เช่น
ตื่นขึ้นมาคิดว่า “วันนี้อากาศสดชื่นจัง วันนี้ไปทำงานเช้ากว่าทุกวันดีกว่า จะได้ไปเตรียมตัวทำงาน”
หรือ ตื่นขึ้นมาคิดว่า “ซวยจริง จะนอนให้สบาย ต้องรีบไปทำงานแล้ว เบื่อจัง เฮ้อ”
ต่อมาพิจารณาความคิดขณะเดินทาง “รถก็ติดเหมือนทุกวัน โชคดีที่มีซีดีธรรมะติดไว้ในรถ เลยได้ฟังธรรมก่อนมาทำงาน”
หรือ “รถก็ติด เฮ้อเบื่อ ยังไม่ทำงานยังเหนื่อยขนาดนี้ ทำไมชีวิตลำเค็ญอย่างนี้ฟะ”
ฯลฯ
ท่านผู้อ่านลองพิจารณาดูว่าท่าทีทางความคิดแบบใดที่จะทำให้เรามีการกระทำที่ดีทั้งกับตัวเองและเพื่อนร่วมงานในแต่ละวัน ทั้งนี้ ความคิด คำพูด และการกระทำย่อมมีความสัมพันธ์กัน เมื่อเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความคิดด้านลบ ย่อมส่งผลถึงคำพูด และในที่สุดทำให้เกิดการกระทำทางลบ ดังนั้นควรเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความคิดทางบวก มีคำพูดทางบวก และมีสติที่จะทำให้เกิดการกระทำทางบวก และขอให้ระลึกอยู่เสมอว่า เหตุการณ์อันเลวร้าย หรือโชคชะตาไม่เป็นใจล้วนแล้วแต่เป็นครูที่ดีของเรา ท่านสวามี วิเวกนันทะ ได้ยกตัวอย่างไว้ว่า ความทุกข์ช่วยสอนเราได้มากกว่าความสุข, ความยากจนช่วยสอนเราได้มากกว่าความร่ำรวย, คำตำหนิติเตียนช่วยสอนเราได้มากกว่าคำสรรเสริญเยินยอ
เมื่อมีสติในการปรับความคิดให้ดีแล้วย่อมส่งผลต่อการกระทำที่ดี กรุณาติดตามอ่าน “กรรมโยคะ” (ตอนที่ 2) เพื่อให้งานเป็นผล คนเป็นสุข ได้ที่ http://www.goodlifecenter-yoga.org
ขอให้มีความสุขกับการทำกรรมดีค่ะ
ด้วยความปรารถนาดีจาก
ดร.ชุติมา วงษ์สวัสดิ์
ศูนย์พัฒนาศักยภาพกายและจิตเพื่อชีวิตที่ดี
โทร.081-4556016, 095-4697893
http://www.goodlifecenter-yoga.org
email address:goodlifecenter1999@hotmail.com
เอกสารอ้างอิง
สวามี วิเวกนันทะ (ละเอียด ศิลาน้อย แปล) 2533. กรรมโยคะ วิถีแห่งงานและชีวิต
ทำงานอย่างไร จึงจะไม่ทุกข์. กรุงเทพ ฯ : สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์.